วิธีเทรด Forex
เลเวอเรจ, ปริมาณซื้อขาย, มาร์จิ้นที่ต้องใช้
ยอดคงเหลือ, ยอดสุทธิ, ฟรีมาร์จิ้น, ระดับมาร์จิ้น
ข้อดีและข้อเสียของการเทรด Forex
การเทรด Forex คืออะไร
Forex เป็นเหมือนตลาดขนาดใหญ่ที่ผู้คนซื้อขายสกุลเงินต่าง ๆ จากทั่วโลก เช่น ดอลลาร์ ยูโร ปอนด์หรือเยน ตัวอย่างเช่น หากคุณเชื่อว่ายูโรจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ คุณอาจแลกดอลลาร์เป็นยูโรตอนนี้ แล้วขายยูโรเพื่อรับเงินดอลลาร์มากขึ้นในภายหลังเมื่อยูโรแข็งค่าขึ้น
กระบวนการทั้งหมดนี้เกิดขึ้นทั่วโลก จริง ๆ แล้ว Forex เป็นตลาดเงินที่ใหญ่ที่สุด ผู้คนเทรดสกุลเงินมูลค่านับล้าน ๆ ดอลลาร์ทุกวัน
นอกเหนือจากคนทั่วไปที่เทรดในตลาด Forex แล้ว คุณจะยังเห็นธนาคารและบริษัทใหญ่ ๆ ที่พยายามทำเงินโดยคาดการณ์ว่าค่าเงินจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ดังนั้น จึงมีการผสมผสานระหว่างกลยุทธ์และการวิเคราะห์ตลาดเพื่อพยายามสร้างเงินกำไรจากตลาดเงินตราต่างประเทศ
สกุลเงินจะถูกซื้อและขายเป็นคู่ เช่น ดอลลาร์สหรัฐและยูโร (EURUSD) หรือปอนด์อังกฤษและเยนญี่ปุ่น (GBPJPY) นักเทรดพยายามคาดการณ์ว่าสกุลเงินใดจะแข็งค่าขึ้นหรืออ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับอีกสกุลเงินหนึ่ง พวกเขาซื้อสกุลเงินที่คิดว่าจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่ขาย
ตลาด Forex ทำงานอย่างไร
ตลาด Forex เปิดตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ตลาดเปิดทำการในส่วนต่าง ๆ ของโลกในเขตเวลาที่แตกต่างกัน ดังนั้น คุณจึงสามารถเทรดได้เกือบทุกเมื่อที่คุณต้องการ
ในการซื้อขาย ผู้คนใช้โบรกเกอร์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนกลางเพื่อช่วยซื้อและขายสกุลเงิน โบรกเกอร์เหล่านี้มีแพลตฟอร์ม แอปหรือเว็บไซต์พิเศษที่นักเทรดสามารถส่งออเดอร์อย่างง่ายดาย
ราคาสกุลเงินเปลี่ยนแปลงตามจำนวนผู้ที่ต้องการซื้อหรือขาย ซึ่งเรียกว่าอุปทานและอุปสงค์ ปัจจัยต่าง ๆ เช่น ข่าวเศรษฐกิจ เหตุการณ์ทางการเมืองหรือการตัดสินใจของธนาคารล้วนสามารถกระทบต่อราคาสกุลเงิน ดังนั้น หากคนจำนวนมากต้องการซื้อสกุลเงิน ราคาจะเพิ่มขึ้น หากคนจำนวนไม่มากต้องการซื้อสกุลเงิน ราคาจะลดลง
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ Forex
หากคุณชอบบทความนี้ ดาวน์โหลดประเด็นสำคัญเป็น PDF (ภาษาอังกฤษ)
เรามาดูคำศัพท์พื้นฐานเกี่ยวกับ Forex บางส่วนกัน
คู่สกุลเงิน ใน Forex คุณจะซื้อสกุลเงินหนึ่งและขายอีกสกุลเงินหนึ่งพร้อมกันเสมอ เช่น EURUSD (ยูโรและดอลลาร์สหรัฐ) สกุลเงินแรกของคู่สกุลเงินคือสกุลเงินที่คุณซื้อ (สกุลเงินฐาน) และสกุลเงินที่สองคือสกุลเงินที่คุณขาย (สกุลเงินอ้างอิง) ราคาที่เสนอจะบอกคุณว่าต้องใช้สกุลเงินอ้างอิงเท่าใดเพื่อซื้อสกุลเงินฐานหนึ่งหน่วย
Pip Pip เป็นหน่วยวัดขนาดเล็กที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในราคาสกุลเงิน ในคู่สกุลเงินส่วนใหญ่ ราคาจะระบุเป็นทศนิยมสี่ตำแหน่ง และหนึ่ง Pip หมายถึงการเคลื่อนไหว 0.0001
เลเวอเรจ เลเวอเรจช่วยให้คุณควบคุมเงินจำนวนมากโดยใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียงเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น หากคุณมีเลเวอเรจ 100:1 คุณสามารถควบคุมเงิน $10,000 ด้วยเงิน $100 เลเวอเรจสามารถเพิ่มเงินกำไรที่อาจได้รับ แต่ก็อาจทำให้คุณสูญเสียเงินเร็วขึ้นเช่นกัน
ราคาขาย (Bid) และราคาซื้อ (Ask) ราคาขายคือราคาที่ได้คุณรับเมื่อคุณขายสกุลเงิน และราคาซื้อคือราคาที่ต้องจ่ายเมื่อคุณซื้อสกุลเงิน ราคาซื้อสูงกว่าราคาขาย และส่วนต่างระหว่างราคาทั้งสองเรียกว่า สเปรด ตัวอย่างเช่น หากราคาขายคือ 1.11443 และราคาซื้อคือ 1.11449 สเปรดจะเท่ากับ 0.6 Pip
ออเดอร์ในราคาตลาดและออเดอร์ในราคาที่กำหนด ออเดอร์ในราคาตลาดหมายถึงคุณซื้อหรือขายทันที ณ ราคาปัจจุบัน ขณะที่ออเดอร์ในราคาที่กำหนดหมายถึงคุณตั้งราคาที่ต้องการซื้อหรือขาย
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและทางเทคนิค การวิเคราะห์ทางเทคนิคคือการดูกราฟราคาเพื่อคาดการณ์ว่าราคาจะเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป ขณะที่การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานให้ความสำคัญกับข้อมูลต่าง ๆ เช่น อัตราดอกเบี้ยและรายงานการจ้างงานเพื่อทำความเข้าใจว่าสกุลเงินแข็งแกร่งแค่ไหน
รอบการซื้อขาย ตลาด Forex เปิดตลอด 24 ชั่วโมงในวันทำงาน แบ่งออกเป็นเขตเวลาต่าง ๆ (เอเชีย ยุโรปและอเมริกาเหนือ) ในแต่ละช่วงเวลาของวัน ระดับกิจกรรมจะแตกต่างกัน รอบการซื้อขายหมายถึงช่วงเวลาที่มีการเทรดเกิดขึ้นมากที่สุดในแต่ละภูมิภาคหลัก
การบริหารความเสี่ยง การบริหารความเสี่ยงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งหมายถึงการกำหนดจำนวนเงินที่คุณสามารถขาดทุนต่อการเทรด หากตลาดไม่เคลื่อนไหวตามที่คุณคาดหวัง และอย่าเสี่ยงใช้เงินลงทุนในสัดส่วนสูงเกินไปต่อการเทรดหนึ่งครั้ง
บัญชีทดลองเทรด แพลตฟอร์มเทรดมากมายให้คุณฝึกฝนในบัญชีทดลองเทรดโดยไม่ใช้เงินจริง ซึ่งเป็นช่องทางชั้นเยี่ยมในการเรียนรู้วิธีเทรด Forex โดยไม่ต้องเสี่ยงเงินจริง
บัญชีซื้อขาย หากต้องการเทรด Forex คุณต้องลงทะเบียนกับโบรกเกอร์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างคุณกับตลาด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโบรกเกอร์ที่คุณเลือกเชื่อถือได้และมีแพลตฟอร์มเทรดที่สะดวก
นอกจากนี้ เราจะสำรวจองค์ประกอบบางส่วนของตลาด Forex อย่างละเอียดมากขึ้น เพื่อที่คุณจะสามารถเรียนรู้วิธีเทรด Forex
คู่สกุลเงินและอัตราแลกเปลี่ยน
ทุกสกุลเงินในการเทรด Forex จะเสนอราคาเป็นคู่ (สกุลเงินหนึ่งเทียบกับอีกสกุลเงินหนึ่ง) ชื่อสกุลเงินประกอบด้วยอักษรย่อสามตัวที่เรียกว่า รหัส ISO ซึ่งอักษรสองตัวแรกจะแสดงถึงประเทศ และตัวอักษรที่สามจะเป็นชื่อสกุลเงิน
สกุลเงินสามารถแบ่งออกเป็นสามประเภท ขึ้นอยู่กับว่ามีการเทรดมากน้อยแค่ไหน
-
สกุลเงินที่เทรดมากที่สุดมักจะเรียกว่า สกุลเงินหลัก ประกอบด้วยดอลลาร์สหรัฐ ยูโร ปอนด์อังกฤษ เยนญี่ปุ่น ดอลลาร์แคนาดา ฟรังก์สวิส ดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์นิวซีแลนด์ คู่สกุลเงินหลักประกอบด้วยดอลลาร์สหรัฐและหนึ่งในสกุลเงินอื่น ๆ จากรายการข้างต้น เช่น EURUSD, USDJPY และ USDCHF
-
คู่สกุลเงินรองประกอบด้วยสองสกุลเงินหลัก (ยกเว้นดอลลาร์สหรัฐ) เช่น EURGBP, EURCHF, EURJPY, GBPCAD, GBPAUD และ CHFJPY
-
คู่สกุลเงินหายากประกอบด้วยสกุลเงินหลักและสกุลเงินที่มีการเทรดน้อยกว่า ตัวอย่างเช่น EURTRY, USDSEK, USDDKK, USDHDK และ USDSDG คู่สกุลเงินหายากมักมีสภาพคล่องน้อยกว่า ซึ่งหมายถึงซื้อหรือขายยากกว่าและมีสเปรดกว้างกว่า
คุณอาจยังต้องการอ่าน: วิธีเริ่มเทรดง่าย ๆ ใน 4 ขั้นตอน, ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับตลาด Forex
ออเดอร์
หากแบ่งตามทิศทาง การเทรดมีสองประเภท ได้แก่
-
ฐานะซื้อหรือ Long จะเปิดที่ราคาซื้อและปิดที่ราคาขาย
-
ฐานะขายหรือ Short จะเปิดที่ราคาขายและปิดที่ราคาซื้อ
แต่ละฐานะสามารถเปิดเป็นออเดอร์ในราคาตลาดหรือออเดอร์รอดำเนินการ
ทิศทาง |
ตลาด |
รอดำเนินการ |
|
Stop |
Limit |
||
Long (ซื้อ) |
เปิดที่ราคาซื้อในขณะนั้น |
เปิดที่ราคาซื้อที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งเหนือกว่าราคาปัจจุบัน |
เปิดเมื่อราคาซื้อถึงระดับออเดอร์ โดยราคาซื้อปัจจุบันต่ำกว่าราคานี้ |
Short (ขาย) |
เปิดที่ราคาขายในขณะนั้น |
เปิดที่ราคาขายที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งต่ำกว่าราคาปัจจุบัน |
เปิดที่ราคาขายที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งเหนือกว่าราคาปัจจุบัน |
ออเดอร์ปิดจะตรงข้ามกับออเดอร์เปิดเสมอ เมื่อคุณปิดฐานะ Long (ซื้อ) คุณขายสกุลเงินออกไป ในทำนองเดียวกัน เมื่อคุณปิดฐานะ Short (ขาย) คุณซื้อคืนสกุลเงินในจำนวนที่ขายไปตอนแรก
คุณสามารถปิดฐานะด้วยตนเอง ณ ราคาตลาดปัจจุบันหรือเมื่อถึงระดับราคาที่กำหนดผ่านคำสั่ง Stop Loss และ Take Profit
-
Stop Loss ออกแบบมาเพื่อจำกัดผลขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น และตั้งไว้สูงกว่าราคาเปิดสำหรับฐานะขาย และต่ำกว่าราคาเปิดสำหรับฐานะซื้อ
-
Take profit ทำให้คุณสามารถปิดฐานะเมื่อได้รับเงินกำไรที่กำหนด คุณควรตั้งระดับ Take Profit ต่ำกว่าราคาซื้อปัจจุบันสำหรับฐานะขาย และเหนือกว่าราคาขายปัจจุบันสำหรับฐานะซื้อ
หากต้องการทำเงินกำไร คุณต้องปิดฐานะซื้อเมื่อราคาเพิ่มขึ้น และปิดฐานะขายเมื่อราคาลดลง
เลเวอเรจ, ปริมาณซื้อขาย, มาร์จิ้นที่ต้องใช้
หากต้องการเปิดฐานะ คุณต้องมีเงินจำนวนที่กำหนดในยอดคงเหลือ ซึ่งตามปกติจะเรียกว่า มาร์จิ้นที่ต้องใช้ หรือแค่ มาร์จิ้น จำนวนเงินที่ต้องใช้ขึ้นอยู่กับตราสารเทรด ปริมาณซื้อขายและเลเวอเรจ
-
ตราสารเทรดหมายถึงทุกสิ่งที่คุณสามารถเทรดได้ รวมถึงคู่สกุลเงิน โลหะ น้ำมันหรือดัชนี
-
ปริมาณซื้อขายคือจำนวนที่คุณซื้อหรือขายในหน่วยล็อต โดยหนึ่งล็อตมาตรฐานเท่ากับ 100,000 หน่วยของสกุลเงินฐาน คุณยังสามารถเทรดขนาดมินิล็อต (0.1) และไมโครล็อต (0.01) โดยขึ้นอยู่กับยอดคงเหลือและประเภทบัญชี ปริมาณซื้อขายกำหนดราคาต่อ Pip กล่าวคือ ยิ่งปริมาณซื้อขายมากเท่าไหร่ การเคลื่อนไหวของราคาแต่ละครั้งจะส่งผลกระทบมากเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ราคาต่อ Pip สำหรับหนึ่งล็อตของ EURUSD คือ 10 USD และสำหรับ 0.5 ล็อตของ EURUSD คือ 5 USD คุณสามารถใช้เครื่องมือนี้เพื่อคำนวณราคาต่อ Pip สำหรับฐานะต่าง ๆ ได้
-
เลเวอเรจเป็นเครดิตเสมือนที่บริษัทเสนอให้กับลูกค้า ยิ่งเลเวอเรจสูงมากเท่าไหร่ จำนวนมาร์จิ้นที่ต้องใช้ก็ยิ่งลดลงเท่านั้น ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณไม่ใช้เลเวอเรจ (1:1) คุณต้องใช้เงิน 100,000 EUR เพื่อเปิด EURUSD 1 ล็อต แต่หากเลเวอเรจของบัญชีของคุณอยู่ที่ 1:200 คุณจะใช้เงินเพียง 500 EUR เท่านั้น เลเวอเรจสูงสุดที่ Octa เสนอคือ 1:1000 หรือก็คือคุณใช้เงินเพียง 100 EUR เพื่อเปิดออเดอร์ 1 ล็อต

โปรดทราบว่าหากคุณมีบัญชี USD มาร์จิ้นที่ต้องใช้จะคำนวณดังนี้
(ราคาปัจจุบัน × ปริมาณในหน่วยล็อต × 100,000 หน่วย) / เลเวอเรจ
ตัวอย่างเช่น หากเลเวอเรจของคุณคือ 1:200 และคุณเปิด EURUSD จำนวน 0.5 ล็อต ณ ราคา 1.12931 มาร์จิ้นที่ต้องใช้จะเท่ากับ
(1.12931 × 0.5 ล็อต × 100,000 หน่วย) / 200 = 282.33 USD
แพลตฟอร์มจะคำนวณมาร์จิ้นที่ต้องใช้โดยอัตโนมัติเสมอ หากต้องการตรวจสอบว่าคุณต้องใช้เงินประมาณเท่าใดในการเปิดฐานะ คุณสามารถใช้โปรแกรมคำนวณ Forexของเรา
ยอดคงเหลือ, ยอดสุทธิ, ฟรีมาร์จิ้น, ระดับมาร์จิ้น
เมื่อคุณเปิดฐานะ ยอดคงเหลือของคุณจะไม่เปลี่ยนแปลง อันที่จริงแล้ว ยอดคงเหลือประกอบด้วยเงินฝาก เงินถอนและการเทรดที่ปิดแล้วเท่านั้น
จำนวนมาร์จิ้นที่ต้องใช้จะถูกหักจากช่อง 'ฟรีมาร์จิ้น' ซึ่งยังประกอบด้วยกำไรหรือขาดทุนที่ยังไม่รับรู้และโบนัสเงินฝาก (หากคุณรับ) ฟรีมาร์จิ้นเป็นเงินทุนที่คุณสามารถใช้เปิดฐานะ โปรดทราบว่าเมื่อคุณเปิดออเดอร์เพื่อป้องกันความเสี่ยงในปริมาณเท่ากัน คุณไม่ต้องใช้มาร์จิ้นแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หากฟรีมาร์จิ้นของคุณติดลบ คุณจะไม่สามารถเปิดฐานะในด้านตรงข้ามได้
ฟรีมาร์จิ้น = ยอดคงเหลือ – มาร์จิ้นที่ต้องใช้ + กำไร/ขาดทุนที่ยังไม่รับรู้ (+ โบนัสเงินฝาก)
อีกหนึ่งค่าที่ได้รับผลกระทบจากกำไรหรือขาดทุนคือ ยอดสุทธิ ซึ่งคำนวณดังนี้
ยอดสุทธิ = ยอดคงเหลือ + กำไร/ขาดทุนที่ยังไม่รับรู้ (+ โบนัสเงินฝาก)
ยอดสุทธิมีความสำคัญ เนื่องจากเป็นตัวกำหนดระดับมาร์จิ้นร่วมกับมาร์จิ้นที่ต้องใช้
ระดับมาร์จิ้น = ยอดสุทธิ / มาร์จิ้นที่ต้องใช้ × 100%
หากระดับมาร์จิ้นของคุณต่ำกว่า 15% รายการซื้อขายในตลาดของคุณจะถูกบังคับปิด โดยเริ่มจากการเทรดที่มีผลขาดทุนที่ยังไม่รับรู้สูงสุด
แพลตฟอร์มจะคำนวณยอดคงเหลือ, ยอดสุทธิ, ฟรีมาร์จิ้นและระดับมาร์จิ้นโดยอัตโนมัติและสามารถดูได้ทุกเวลาในแท็บ 'การเทรด'
ตัวอย่างการเทรด Forex: ซื้อ EURUSD
สมมติว่าอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับ EURUSD คือ 1.09140/1.09180 (ซื้อ/ขาย) อัตราแลกเปลี่ยนนี้แสดงให้เห็นว่าคุณจะต้องใช้เงินกี่ดอลลาร์สหรัฐเพื่อแลกเงินหนึ่งยูโร คุณเชื่อว่ายูโรจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ดังนั้น คุณตัดสินใจซื้อ €20,000
ด้วยอัตรามาร์จิ้น 0.5% คุณต้องฝากเงินเพียงเล็กน้อยของมูลค่าการเทรดทั้งหมด มูลค่าการเทรดทั้งหมดของคุณคือ €20,000 x 1.09180 = $21,836 ด้วยมาร์จิ้น 0.5% คุณต้องฝากเงินเพียง $109.18 เพื่อเปิดฐานะ
ตัวเลือก A: สถานการณ์กำไร
การคาดการณ์ของคุณถูกต้อง ราคาขยับขึ้น และราคาขาย (Bid) เพิ่มขึ้นเป็น 1.09680 คุณตัดสินใจปิดฐานะโดยการขายในราคาสูงกว่า
-
ราคาขยับขึ้น 50 Pip(1.09680 - 1.09180)
-
เพื่อคำนวณกำไรของคุณ
€20,000 x 1.09680 = $21,936
€20,000 x 1.09180 = $21,836
กำไรของคุณคือ $21,936 - $21,836 = $100
ตัวเลือก B: สถานการณ์ขาดทุน
โชคไม่ดีที่ตลาดไม่เคลื่อนไหวดังที่คุณคาดการณ์ และราคาลดลง ราคาขาย (Bid) ลดลงเหลือ 1.08680 เพื่อลดการขาดทุน คุณตัดสินใจขายที่ราคาต่ำกว่า
-
ราคาลดลง 50 Pip (1.09180 - 1.08680)
-
เพื่อคำนวณการขาดทุนของคุณ
€20,000 x 1.08680 = $21,736
€20,000 x 1.09180 = $21,836
การขาดทุนของคุณคือ $21,736 - $21,836 = -$100
ประเด็นสำคัญ
-
สเปรดราคาซื้อ/ขาย: ราคาขาย (1.09140) คือราคาที่คุณขายได้ ขณะที่ราคาซื้อ (1.09180) คือราคาที่คุณซื้อ
-
การเคลื่อนไหวของ Pip: การเปลี่ยนแปลง 50 Pip (0.00050) ส่งผลให้เกิดกำไรหรือขาดทุน $100 จากการเทรดมูลค่า €20,000
-
มาร์จิ้น: ด้วยมาร์จิ้น 0.5% คุณต้องฝากเงินเพียงเศษเสี้ยวของมูลค่าการเทรดทั้งหมด
ข้อดีและข้อเสียของการเทรด Forex
ข้อดี |
ข้อเสีย |
เทรดได้ทุกเวลา คุณสามารถเทรดได้ทุกเมื่อที่ต้องการในระหว่างสัปดาห์ ตลาดเปิดตลอด 24 ชั่วโมง (วันจันทร์ - วันศุกร์) ดังนั้น คุณสามารถเข้าร่วมได้เกือบทุกเวลา |
ความคาดเดาไม่ได้ของตลาด ตลาด Forex เคลื่อนไหวรวดเร็ว สร้างโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักเทรด (แต่มาพร้อมโอกาสขาดทุน) หากไม่มีกลยุทธ์และการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม คุณมีความเสี่ยงขาดทุนเสมอ อย่างไรก็ตาม ด้วยการฝึกฝนและความรู้ที่ถูกต้อง คุณสามารถใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวเหล่านี้ได้ |
ตารางเวลาของคุณ คุณสามารถเลือกได้ว่าต้องการใช้เวลาในการเทรดนานแค่ไหน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณ |
ความจำเป็นในการศึกษาอย่างทุ่มเท ตลาดที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วอาจมอบโอกาสชั้นเยี่ยม แต่หากไม่มีการเตรียมตัวและความรู้ที่เหมาะสม ก็อาจเกิดข้อผิดพลาดที่ต้องจ่ายแพงได้ง่าย การสละเวลาเพื่อทำความเข้าใจกลยุทธ์ แนวโน้มตลาดและการบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จในระยะยาว |
การกู้ยืมเงิน คุณสามารถเทรดโดยใช้มาร์จิ้น ซึ่งคุณกู้ยืมเงินจากโบรกเกอร์เพื่อเทรดในปริมาณมากขึ้น ทำให้คุณมีศักยภาพในการทำกำไรของคุณมากขึ้น |
การเทรดโดยใช้มาร์จิ้นมีความเสี่ยงสูงกว่า เมื่อคุณกู้ยืมเงินและเทรดด้วยเงินจำนวนมากขึ้น นั่นจะช่วยให้คุณสร้างเงินกำไรมากขึ้น แต่ก็หมายความว่าคุณอาจสูญเสียเงินมากขึ้น หากไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ |
ศักยภาพในการประกอบเป็นอาชีพ หากคุณเข้าใจจริง ๆ ว่าตลาดทำงานอย่างไร การเทรดอาจกลายเป็นงานเต็มเวลาสำหรับคุณได้ |
ความคาดหวังสูง Forex มักถูกโฆษณาในลักษณะที่ทำให้ฟังดูง่ายและทำกำไรได้ หลายคนคิดว่าพวกเขาจะรวยอย่างรวดเร็วและหงุดหงิดเมื่อไม่เห็นผลลัพธ์ทันที อย่างไรก็ตาม การเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ |
วิธีเริ่มเทรด
สิ่งที่คุณต้องทำเพื่อเริ่มเทรด Forex คือเปิดบัญชีบนเว็บไซต์ของเราหรือดาวน์โหลดแอปซื้อขาย Octa
บัญชีทดลองเทรดทำให้คุณสามารถฝึกฝนโดยปราศจากความเสี่ยงและไม่ต้องใช้เงินจริง ขณะที่การเทรดในบัญชีจริง คุณจะได้สัมผัสกับตลาดจริงด้วยเงินฝากขั้นต่ำ
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าตลาด Forex ทำงานอย่างไร เครื่องมือและเทคนิคที่คุณสามารถใช้ หรือกลยุทธ์ที่คุณสามารถใช้ในส่วน Forex เบื้องต้น ของเว็บไซต์ของเรา
หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับตลาด เว็บไซต์ Octa หรือเงื่อนไขการเทรด คุณสามารถดูในส่วนคำถามที่พบบ่อยที่ครอบคลุมของเรา
เมื่อใดก็ตามที่คุณพบศัพท์ คำหรือปรากฏการณ์ในตลาดที่ไม่คุ้นเคย คุณสามารถดูความหมายและคำอธิบายในส่วนอภิธานศัพท์ Forex
ฝ่ายบริการลูกค้าที่ได้รับรางวัลของเรายินดีอย่างยิ่งที่จะตอบคำถามของคุณตลอด 24/7
ข้อสรุป
-
โดยหลักการแล้ว การเทรด Forex คือการแลกเปลี่ยนเงินตราจากประเทศต่าง ๆ
-
การเทรดจะทำเป็นคู่ เช่น ยูโรและดอลลาร์ และคุณพยายามทำเงินโดยคาดการณ์ว่ามูลค่าของคู่สกุลเงินจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
-
หากคุณคิดว่าสกุลเงินหนึ่งจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น คุณก็ซื้อ หากคุณคิดว่ามูลค่าจะลดลง คุณก็ขายออกไป
-
นักเทรดใช้เครื่องมือต่าง ๆ เช่น กราฟที่แสดงการเปลี่ยนแปลงของราคา รวมถึงอัปเดตและข่าวเศรษฐกิจ เพื่อช่วยให้พวกเขาตัดสินใจว่าจะซื้อหรือขายเมื่อใด
-
โปรดอย่าลืมว่าถึงแม้คุณจะทำเงินได้ แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินเช่นกัน ดังนั้น การศึกษากลยุทธ์การเทรด Forex และติดตามข่าวสารในตลาดจึงเป็นสิ่งสำคัญ ด้วย Octa Space ฟีดสดพร้อมแนวคิดการเทรดล่าสุดในแพลตฟอร์มเทรด OctaTrader แม้แต่นักเทรดมือใหม่ก็สามารถเข้าใจตลาดได้ดีขึ้นและเปิดการเทรดแรก